พอดีพูดถึงเพื่อนเก่าแล้วนึกถึงเรื่องนี้อะ....................
เจตนาซึ่งเป็นเหตุให้พูดถ้อยคำที่ไม่มีประโยชน์ คือ ขัดขวางทางแห่งประโยชน์สุข ที่คนดีทั่วไปจะพึงได้รับ ศัพท์ทางพระท่านเรียกว่า คำพูดเพ้อเจ้อ เหลวไหล
ความแตกต่างระหว่าง คำโกหก กับ คำพูดเพ้อเจ้อ นั้น คำโกหก อยู่ที่เจตนาที่ไม่ดี เจตนาที่มุ่งจะหลอกลวงคนอื่น ส่วนคำพูดเพ้อเจ้อ อยู่ที่เจตนาเป็นเหตุเจรจาถ้อยคำที่ไม่มีเหตุและผล อีกทั้งแสดงสิ่งที่ไร้สาระ จนคนหลงเชื่อว่าเป็นเรื่องจริง
การพูดคำเพ้อเจ้อนั้น จะต้องประกอบด้วยหลัก 2 ประการ คือ
1. มีความคิดที่จะพูดเรื่องเพ้อเจ้อ
2. พูดเรื่องเช่นนั้นออกไป
การพูดคำเพ้อเจ้อ ท่านว่ามีโทษมากมายมหันต์ ด้วยเหตุ 3 ประการ คือ
1. ผู้พูดมีความเคยชินมาก
2. คนอื่นเชื่อว่าเป็นเรื่องจริง
3. ผู้พูดมีกิเลสแรงกล้า
การพูดคำเพ้อเจ้อที่ตรงกันข้ามจากเหตุ 3 ประการนี้ ท่านว่ามีโทษน้อย
เจตนาซึ่งเป็นเหตุให้พูดถ้อยคำที่ไม่มีประโยชน์ คือ ขัดขวางทางแห่งประโยชน์สุข ที่คนดีทั่วไปจะพึงได้รับ ศัพท์ทางพระท่านเรียกว่า คำพูดเพ้อเจ้อ เหลวไหล
ความแตกต่างระหว่าง คำโกหก กับ คำพูดเพ้อเจ้อ นั้น คำโกหก อยู่ที่เจตนาที่ไม่ดี เจตนาที่มุ่งจะหลอกลวงคนอื่น ส่วนคำพูดเพ้อเจ้อ อยู่ที่เจตนาเป็นเหตุเจรจาถ้อยคำที่ไม่มีเหตุและผล อีกทั้งแสดงสิ่งที่ไร้สาระ จนคนหลงเชื่อว่าเป็นเรื่องจริง
การพูดคำเพ้อเจ้อนั้น จะต้องประกอบด้วยหลัก 2 ประการ คือ
1. มีความคิดที่จะพูดเรื่องเพ้อเจ้อ
2. พูดเรื่องเช่นนั้นออกไป
การพูดคำเพ้อเจ้อ ท่านว่ามีโทษมากมายมหันต์ ด้วยเหตุ 3 ประการ คือ
1. ผู้พูดมีความเคยชินมาก
2. คนอื่นเชื่อว่าเป็นเรื่องจริง
3. ผู้พูดมีกิเลสแรงกล้า
การพูดคำเพ้อเจ้อที่ตรงกันข้ามจากเหตุ 3 ประการนี้ ท่านว่ามีโทษน้อย